แจก 4+1 พิกัดโรงแรมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

เที่ยวนนท์สุดชิล! กับ 4+1 พิกัดที่เที่ยวพิเศษ & ที่พักริมน้ำในนนทบุรี

เพราะการท่องเที่ยวในเมืองไทยไม่ได้จำกัดอยู่ที่การเดินทางไปยังต่างจังหวัดไกล ๆ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทุกคนยังสามารถเติมสีสันให้กับชีวิต และออกท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ได้ง่าย ๆ โดยการเดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจยังเขตปริมลฑลใกล้ ๆ อย่างจังหวัดนนทบุรีได้เช่นกัน 

สำหรับใครที่ยังไม่เคยท่องเที่ยวในจังหวัดนนทบุรี ไม่รู้ว่าจะเข้าพักในโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาแถวนนทบุรีดีไหม หรือยังไม่มีแพลนในใจว่าจะเที่ยวอย่างไรให้ครบถ้วนได้ในวันเดียว วันนี้ Riverine Place จะขออาสาพาทุกคนไปบุกตะลุยยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเมืองนนท์เอง ถ้าใครพร้อมแล้ว เตรียมแพ็กกระเป๋า แล้วขึ้นรถมาตะลุยไปพร้อมกันได้เลย

พิกัดที่ 1 : เกาะเกร็ด

นอกจากโรงแรมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ช่วยทำให้ผ่อนคลายจากบรรยากาศที่ตึงเครียดในเมืองใหญ่แล้ว เกาะเกร็ดถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญในนนทบุรีที่ช่วยคลายเครียดได้เป็นอย่างดี 

ซึ่งไม่เพียงแต่จะมาพร้อมกิจกรรมสนุก ๆ อย่างปั่นจักรยานรอบเกาะ การเดินตะลอนทัวร์ ตลอดจนการไหว้พระศักดิ์สิทธิ์อย่างวัดไผ่ล้อม วัดสนามเหนือ และวัดเสาธงทองเท่านั้น แต่เกาะเกร็ดยังเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่ขึ้นชื่อในเรื่องของกินและอาหารท้องถิ่นที่หากินได้ยากอย่างหน่อกะลา ดอกไม้ทอด ขนมไทยโบราณ และสารพัดอาหารจานด่วนที่ปรุงโดยพ่อครัวแม่ครัวที่สั่งสมฝีมือไว้ยาวนานมากกว่า 10 ปี

เห็นแบบนี้แล้ว บอกเลยว่ามาเกาะเกร็ดเพียงครั้งเดียวก็ได้อิ่มหนำสำราญครบถ้วนทั้งบรรยากาศริมแม่น้ำสุดชิล รวมถึงอาหารจานอร่อยแบบพื้นบ้านที่หากินได้ยาก ตลอดจนผู้คนที่เป็นมิตรตลอดรอบเกาะเลยทีเดียว 

วิธีเดินทางไปเกาะเกร็ด

หลายคนอาจมองว่านนทบุรีเป็นจังหวัดที่อยู่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ แต่ในความเป็นจริงแล้ว นนทบุรีนั้นอยู่ใกล้กว่าที่คิด โดยการเดินทางมายังเกาะเกร็ดนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวขับมาจอดที่วัดสนามเหนือ จากนั้นก็นั่งเรือข้ามฟากไปยังเกาะเกร็ด

แต่สำหรับใครไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถนั่งรถตู้จากสถานีขนส่งมาลงยังปากเกร็ด ซึ่งสำหรับกรุงเทพฯ และปริมลฑลนั้น รถตู้ที่ให้บริการมายังปากเกร็ดนั้นจะประกอบไปด้วยสายมีนบุรี-ปากเกร็ด และอนุเสาวรีย์-ปากเกร็ด ซึ่งเมื่อถึงปากเกร็ดแล้วก็สามารถนั่งเรือข้ามฟากไปยังเกาะเกร็ดได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกัน

พิกัดที่ 2 : พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี

พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี หรือที่คนในพื้นที่จะเรียกว่า ‘ศาลากลางเก่า’ นั้นถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่หากไม่มาจะถือว่ามาไม่ถึงจังหวัดนนทบุรี ซึ่งถึงพิพิธภัณฑ์จะจัดสร้างขึ้นได้ไม่นาน แต่ศาลากลางของนนทบุรีที่ปรับปรุงมาเป็นพิพิธภัณฑ์นั้นได้ซ่อนเรื่องราว และวิถีความเป็นอยู่ของชาวนนทบุรีไว้ไม่เคยเปลี่ยน 

ตัวตึกของพิพิธภัณฑ์เป็นไม้โบราณที่ยังคงไว้ซึ่งการออกแบบสถาปัตยกรรมเฉพาะทางที่ผสมผสานสไตล์ตะวันตกให้เข้ากับความเป็นไทยได้อย่างลงตัว โดยภายในตึกนั้นจะมีการจัดแสดงนิทรรศการที่ได้รวบรวมประวัติศาสตร์ของจังหวัดนนทบุรี อีกทั้งยังจัดแสดงงานศิลปะของจังหวัดนนทบุรีเอาไว้มากมายอีกด้วย

ซึ่งไม่เพียงแต่จะเข้ามาเยี่ยมชมเพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ถ่ายรูปชิค ๆ ที่สายมินิมอลไม่ควรพลาดอีกด้วย ที่สำคัญ การเดินชมรอบ ๆ ตัวพิพิธภัณฑ์ยังบริเวณริมท่าน้ำนนท์นี้ก็ได้บรรยากาศชิล ๆ ที่มาพร้อมวิวแม่น้ำสวย ๆ ไปอีกแบบ

วิธีเดินทางไปพิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี

ทุกคนสามารถเดินทางไปยังศาลากลางเก่าจังหวัดนนทบุรีได้ง่าย ๆ โดยใช้รถยนต์ส่วนตัว จากนั้นปักหมุดที่ท่าน้ำนนท์ หรือหากลงรถตู้ที่ปากเกร็ดก็สามารถนั่งแท็กซี่มาลงที่ท่าน้ำนนท์ได้เช่นกัน ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์จะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 10:00 – 18:00 น. ทุกวันยกเว้นวันจันทร์

พิกัดที่ 3 : วัดเล่งเน่ยยี่ 2

ผ่านไป 2 พิกัดแล้ว หลาย ๆ คนคงชักเริ่มสงสัยแล้วว่า หากมาเที่ยวจังหวัดนนทบุรี เราควรไปไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลที่วัดไหนกันดี และถ้ามานนทบุรี เราควรจะเข้าพักที่โรงแรมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหน ซึ่งหากใครกำลังสงสัยแบบเดียวกันนี้อยู่ Riverine Place จะขอชวนทุกคนไปทำความรู้จักกับวัดเล่งเน่ยยี่ 2 กันก่อนที่จะไปหาที่พักกัน

วัดเล่งเน่ยยี่ 2 มีชื่อเต็ม ๆ ว่า วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ ซึ่งวัดแห่งนี้ได้รับการออกแบบตามสถาปัตยกรรมจีนแบบพิเศษที่ผสมผสานอย่างลงตัวจนทำให้หลาย ๆ คนที่เข้าไปเยี่ยมชมและไหว้พระต่างก็รู้สึกเหมือนได้หลุดออกไปอยู่เมืองจีนจริง ๆ ซึ่งภายในวัดนั้นเต็มไปด้วยภาพเขียนที่สะท้อนถึงคติธรรมคำสอนของศาสนาพุทธนิกายมหายาน 

ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายไม่ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าสามพระองค์ เจ้าแม่กวนอิม และเทพจีนอีกมากมายให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาได้กราบไหว้ขอพร ไปพร้อม ๆ กับเดินชมสถาปัตยกรรมที่หาชมได้ยากอีกด้วย

วิธีเดินทางไปวัดเล่งเน่ยยี่ 2

การเดินทางไปยังวัดเล่งเน่ยยี่ทำได้โดยการขับรถยนต์ตรงไปยังบางบัวทอง ผ่านถนนเทศบาล หรือสามารถนั่งรถตู้สายเดอะมอลล์ – บางบัวทองมาลงที่ตลาดบางบัวทอง จากนั้นจึงต่อรถแท็กซี่ รถมอเตอร์ไซค์ หรือรถสองแถวเข้าวัดเล่งเน่ยยี่ 2

พิกัดที่ 4 : หาดเติมรัก

หลายคนอาจมองว่า นนทบุรีเป็นจังหวัดที่มีแต่สถานที่ริมน้ำ และเต็มไปด้วยโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถึงจะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยบรรยากาศริมน้ำ แต่อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนยังไม่รู้เกี่ยวกับจังหวัดนนทบุรีก็คือ จริง ๆ แล้ว ที่นนทบุรีก็มีทะเลด้วย!

โดยทะเลเมืองนนท์นั้นมีชื่อว่า ‘หาดเติมรัก’ ซึ่งเป็นทะเลน้ำจืดแห่งแรกและแห่งเดียวในจังหวัดนนทบุรี โดยหาดเติมรักนั้นมีพื้นที่สูงกว่า 40 ไร่ และเป็นทะเลน้ำจืดเทียมที่ถูกขุดขึ้นในพื้นที่นาส่วนตัว

ที่สำคัญ ไม่เพียงแต่จะเปิดให้เดินเล่น กินลม ชมวิวทะเลได้ชิล ๆ เท่านั้น แต่หาดเติมรักยังมาพร้อมกิจกรรมให้ได้เล่นสนุกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำในทะล การเล่นบานานาโบ๊ท ตลอดจนการพายเรือ และเล่นเจ็ทสกีเพื่อเติมสีสันให้วันหยุดแบบไปทะเลจริง ๆ

วิธีการเดินทางไปหาดเติมรัก

ทุกคนสามารถเดินทางไปหาดเติมรักได้โดยใช้รถยนต์ขับมุ่งตรงไปยังตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง หรือหากใครไม่มีรถยนต์ก็สามารถนั่ง MRT สายสีม่วงมาลงยังสถานีคลองบางไผ่ จากนั้นก็ต่อรถแท็กซี่เข้ามาที่หาดเติมรักได้เช่นกัน 

พิกัดพิเศษ! โรงแรมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา Riverine Place

เพราะทุกความสนุกจากการท่องเที่ยวย่อมนำมาซึ่งความเหนื่อยล้า ที่พักริมน้ำในจังหวัดนนทบุรีอย่าง Riverine Place ถือเป็นอีกหนึ่งพิกัดดี ๆ ที่ทุกคนไม่ควรพลาด ซึ่งไม่เพียงแต่จะมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน อีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำ และฟิตเนสให้ได้เลือกใช้อย่างสะดวกเท่านั้น แต่ Riverine Place ยังเป็นโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีวิวแม่น้ำสุดผ่อนคลายเพื่อให้ทุกคนจบทริปเที่ยวนนทบุรีได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับพิกัดเที่ยวนนทบุรีสุดพิเศษที่นำมาฝาก หวังว่าจะช่วยให้ทุกคนรู้จักและลองเปิดใจท่องเที่ยวในจังหวัดเล็ก ๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวอย่างจังหวัดนนทบุรีกัน ซึ่งหากใครต้องการเปิดทริปเที่ยวนนทบุรี พร้อมหาที่พักที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ที่ Riverine Place เราเติมเต็มทุกพลังกาย และพลังใจให้กับผู้มาเยือนจังหวัดนนทบุรีทุกคน หากต้องการรายละเอียดเพิ่ม สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 02 966 6111 ตลอด 24 ชั่วโมง